ดูหนังออนไลน์ พากย์ไทยเต็มเรื่อง หนังไม่กระตุก ไม่มีโฆษณา

ดูหนังออนไลน์ แจฮา ผู้หลงใหลกลุ่มเบสบอล Twins ผ่าเหล่าผ่ากอจากอาๆผู้ดูแลอย่าง อาซอกโฮ (สวมบทโดย แทอินโฮ) รวมทั้ง อาจีซุก (เล่นบทโดย ชเวเยบิน) ซึ่งเชียร์กลุ่ม Bears มาตลอด ทำให้แจฮาจะต้องทนเชียร์เอาอย่างอัดอั้นตันใจมาตลอดชาติ กระทั่งจำเป็นต้องแอบมาติดต่อซื้อเสื้อนอกตัวนี้ ทำให้พบแจ็คพ็อตว่าคนขายเป็น กวังซอง

ผู้เล่นเบสบอลสมญานามม้าพยศของกลุ่ม Twins ในอดีตกาล จนได้ฟังเรื่องราวของเขาที่ไปเกี่ยวพันกับอาชญากรรม นอกจากความฟินที่ได้เชียร์สุดใจหนแรกในสนามสำหรับเพื่อการแข่งขัน แจฮาก็ยังพบว่ากวังซองน่าจะเป็นเพื่อนพ้องต่างอายุที่ดีของเขาสำหรับการร่วมเชียร์ Twins ได้ หากแม้สถานะของกวังซองจะไม่ราบรื่นนักก็ตาม

อันมีโซ (รับบทบาทโดย คิมดามี) ในวัย 13 เป็นผู้เรียนโยกย้ายจากโซลไปอยู่ที่เชจู ได้พบกับเด็กนักเรียน วัวฮาอึน (เล่นบทโดย จอนโซนี) ตรงนั้น ไม่น่าเชื่อว่า ความรักอิสระจนถึงเฮี๊ยวแปลกแหวกกรอบของอันมีโซจะไปเข้ากันได้กับวัวฮาอึนซึ่งเป็นเด็กงดงามนิ่งอึ้งเป็นระเบียบ บางครั้งอาจจะล่อใจกันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว

เปลี่ยนเป็นเพื่อนรักแน่นแฟ้นอย่างเร็ว เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ทำให้อันมีโซตกลงใจเลิกชีวิตระเหินระหกตามแม่ที่ย้ายเมืองไปบ่อย ยอมอยู่ตรงนี้เพียงลำพัง รวมทั้งเลือกเรียนสายอาชีพ สู้ชีวิตโดยการทำงานพาร์ตไทม์ทำมาหากินไปด้วย ขณะที่วัวฮาอึนเรียนสายสามัญเพื่อนำไปสู่อาชีพคุณครูตามใจบิดามารดา ปูทางอนาคตของหญิงในกรอบที่จะสมรสแต่งงานเรียบง่ายอยู่ตรงนี้ไปชั่วชีวิต ทั้งที่คุณมีความรู้ความสามารถสำหรับเพื่อการวาดภาพภาพเสมือนลายเส้นดินสอได้ดิบได้ดีอย่างน่าทึ่ง

ดูหนังออนไลน์ รีวิวภาพยนตร์ Life is Beautiful (2022)

จริงๆแล้ว อุตสาหกรรมสนุกสนานประเทศเกาหลีจัดว่าเป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ผลิตงานมากไม่น้อยเลยทีเดียวนานัปการ Genre แต่ว่าน่าอัศจรรย์ที่ยังไม่เคยทำหนังแนว Musical เลย ถึงแม้ว่างาน Musical ที่อยู่ในลักษณะของละครเวทีจะได้รับความนิยม และก็หาดูได้ในโซลเสมอๆ Life is Beautiful ก็เลยเป็นภาพยนตร์แนว Musical เรื่องแรกของประเทศเกาหลี

ซึ่งถูกโปรโมตพร้อมฉายตั้งแต่เมื่อปี 2020 แม้กระนั้นเนื่องจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของวัววิด-19 ทำให้ถูกเลื่อนยาวมาจนกระทั่งปี 2022 คนเขียนเองยังคอยกระทั่งจะต้องทำใจลืมเลย กระทั่งสุดท้ายหนังได้รับเชื้อเชิญไปฉายเปิดตัวในเทศกาลหนังที่ 36th Fribourg International Film Festival ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อต้นปี 2022 และก็ค่อยมาได้ลงโรงให้ดูกันซะแทบสิ้นปี

จนกระทั่งโมเมนตั้มดูจะอ่อนเพลียไป แต่ ผลตอบรับก็ยังนับว่าดีใช้ได้ แม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดคืนทุนก็ตาม แต่ว่าก็สามารถปราบยอดตั๋วเกินล้านใบได้ ครอบครองชั้น 14 ของ Box Office ปีนี้ ช่างเป็นความคิดที่ไม่มีประโยชน์ในมุมมองของพัคคัง แต่ว่ามันได้เกิดขึ้นจริงกับตัวเขา! รุ่งเช้านั้นเขาตื่นมาด้วยชีวิตใหม่อย่างเกินจริงว่าเขามีเมียเป็น ซูฮยอน มีลูกฝาแฝด (คนละฝา)

เป็นโรฮา (สวมบทโดย คิมจุน) รวมทั้งโรฮี (รับบทบาทโดย พัคโซอี) แต่ว่าสิ่งที่เขาไม่มีเป็นทรัพย์สินรวมทั้งเกียรติศักดิ์ เขารับจ๊อบงานแสดงในสารคดีถ่ายทอดชีวประวัติ จัดเป็นดาราหนังเกรดรองที่ไม่มีหน้าที่ งานน้อยแล้วก็รายได้น้อย ส่วนงานที่ได้เป็นตัวเอกจริงๆก็มี โน่นเป็นละครเวทีที่มีผู้ชมประปรายแค่นั้น แล้วก็ยังอึ้งไปอีก เมื่อพบว่าชีวิตเขาสลับกับโจยุยงน!

โจยุยงนกลายเป็นศิลปินตัวท็อปหนุ่มโสดเนื้อหอมแทนเขา ด้วยเหตุว่าการตัดสินใจในวันออดิชั่นคราวนั้นที่แปรไป รวมทั้งมีเหตุที่ทำให้เขาเปลี่ยนมาเป็นผู้จัดการให้โจยุยงนด้วย เข้าสุภาษิตที่ว่า Put yourself in someone’s shoes เลย ที่จะทำให้เขารู้เรื่องจิตใจคนอื่นๆได้มากขึ้นสักครั้งหากว่าแรกๆพัคคังจะรำคาญกับชีวิตใหม่ที่พลิกกลับตาลิปัตร

แม้กระนั้นเขาก็ได้เบาๆปรับพฤติกรรม เปลี่ยน ศึกษากระทั่งสามารถมีคำตอบเรื่องค่าชีวิตได้ แต่ว่าจะขลุกขลักเช่นไรกว่ากำลังจะถึงจุดนั้น รวมทั้งปริศนาคาใจที่ว่า เพราะเหตุใดก็เลยเกิดเหตุราวแฟนตาซีนี้ขึ้นอยู่กับเขาได้ ก็ทดลองตามมองคำตอบกันได้เองเลยคะ ‘The Point Men’ เป็นฝีมือการดูแลของผู้กำกับหญิง อิมซุนรเย (Yim Soon-rye) ที่เคยดูแลหนังใสๆ‘Little Forest’ (2018)

หรือเวอร์ชันรีเมกหนังประเทศญี่ปุ่นชื่อเดียวกันที่เคยดังในไทยหัวข้อนั้นล่ะครับผม ความน่าดึงดูดใจอีกอย่างก็คงจะหนีไม่พ้นบรรดา 3 ดาราชายเบอร์ใหญ่ที่มาปะทะกันในหนังหัวข้อนี้ ตั้งแต่ ฮวังจองไม่น (Hwang Jung-min), คังกียอง (Kang Ki-young) หรือทนายความแว่น หัวหน้าของทนายความอูยองอูในซีรีส์ ‘Extraordinary Attorney Woo’ (2022) คนนั่นแหละ

และก็ผู้แสดงแถวหน้า ฮยอนบิน (Hyun Bin) ในลุคชายหนุ่มเซอร์สุดเข้ม ที่ปัจจุบันนี้คงจะจำต้องเรียกว่าแด๊ดดี้ เพราะว่าพี่เอ็งประกาศว่า เมียเอ็งพึ่งลูกคนแรกหลังจากถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์พอดิบพอดี อีกอย่างก็คือ ตัวหนังเคยเปิดตัวทำรายได้ในประเทศเกาหลีใต้เป็นชั้น 1 แซงหน้า ‘Avatar: The Way of Water’ ที่ครอบครองรายได้มาก่อนหน้าด้วยครับผม ส่วนในไทย จริงๆหนังพึ่งจะเข้าโรงไปเมื่อก.พ.นี่เอง

รีวิวภาพยนตร์ Men of Plastic (2022)

Men of Plastic เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้บนเนื้อเรื่องของธุรกิจศัลยกรรมเสริมความสวยงามที่บริเวณอัพกูจอง เขตคังนัม ที่เป็นที่รู้จักที่สุดของประเทศ โดยมีตัวชูโรงของเรื่องเป็น ‘มาดงซอก‘ ที่พึ่งสร้างการเกิดหนังทำเงินสูงสุดไปเมื่อต้นปีจากเรื่อง The Roundup ก่อนที่จะเอามาลงใน Netflix พ่วงเสียงบรรยายไทยจากกลุ่มผู้ช่วยเหลือให้ได้ดูกัน

ว่ากันแล้ว ผลตอบรับของ Men of Plastic นั้นบางทีอาจไม่ปังมากเท่าไรนักในประเทศเกาหลี คาดว่าคงจะเป็นเนื่องจากว่าข้อความสำคัญเรื่องราวธุรกิจที่เอามาเล่า เป็นสิ่งที่เข้าใจกันดีในชีวิตคนประเทศเกาหลีมานานนมแล้ว ไม่ใช่แค่เพื่ออาชีพบางสายงานที่จำเป็นต้องพึ่งพิงความงดงาม แต่ว่าแปลงเป็นของขวัญพื้นฐานเมื่อจบที่บิดามารดาจะต้องมอบให้ลูก เพื่อฯลฯทุนเสริมความมั่นใจและความเชื่อมั่นสำหรับการก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน

นอกเหนือจากนั้นตัวหนังก็บางทีอาจขาดใจความสำคัญซาบซึ้งใจ กับมุกตลกขบขันที่ไม่กระโดดแหวกกระทั่งถูกอกถูกใจ ไม่เหมือนกับหนังคอมเมดี้ที่บรรลุเป้าหมายในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาอย่าง Extreme Job (2019) หรือ 6/45 (2022) ซึ่งก็จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าภาพยนตร์ตลกนี่เป็นงานยากสุดละ เนื่องจากว่าขำของพวกเราบางทีอาจไม่ขำของผู้อื่น ขำอย่างไรให้สากล เข้าถึงได้แม้ว่าจะต่างบริบทต่างวัฒนธรรมกัน

ว่ากันในมุมของพล็อต Switch สลับแปลงกายหรือตัวตนต่างขั้วเพื่อกระตุกเตือนสติ ไม่ใหม่เลยใช่ไหมขา วนเวียนมาแล้วหลายๆเรื่องอีกทั้งฟากตะวันตกหรือฝั่งทวีปเอเชีย จนถึงอาจจะเป็นผลให้มองจืดชืดๆไปซะละ แต่ว่าความเป็นจริงที่ว่า ปริศนาคลาสสิครวมทั้งความจริงชีวิตที่พวกเราๆมักเผลอลืมไปได้เสมอๆการเล่าซ้ำเล่าใหม่เป็นครั้งเป็นคราวก็ช่วยย้ำดีนะ

ว่ากันในมุมของพล็อต Switch สลับแปลงร่างหรือตัวตนต่างขั้วเพื่อกระตุกเตือนสติ ไม่ใหม่เลยใช่ไหมค่ะ วนเวียนมาแล้วหลายๆเรื่องทั้งยังฟากตะวันตกหรือฝั่งทวีปเอเชีย จนถึงอาจก่อให้มองจืดชืดๆไปซะละ แต่ว่าความเป็นจริงที่ว่า ปริศนาคลาสสิคและก็ความจริงชีวิตที่พวกเราๆมักเผลอลืมไปได้เสมอๆการเล่าซ้ำเล่าใหม่เป็นบางครั้งก็ช่วยย้ำดีนะ

ที่ได้รับความรักความพึงพอใจจากแฟนคลับหลายชิ้น แล้วก็พวกเราก็จำต้องขอสรรเสริญในผลงานความทุ่มเทชิ้นนี้ของจินยอง ที่เหมาะชูให้เป็นมาสเตอร์พีซของเขาเลยล่ะในความไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดมาก ก็เป็นผลดีในความมองสบาย ย่อยง่าย ย้ำรอยยิ้ม เชื่อตามเข้าถึงอารมณ์ความสบายความเศร้าใจของชีวิตอย่างเพลิดเพลินๆแบบไม่เครียดเหลือเกิน เพียงพอมีอะไรให้เก็บตกกลับไปใช้กับตนเองได้บ้าง

รีวิวภาพยนตร์ Christmas Carol (2022)

Christmas Carol ในชื่อไทยว่า ‘วันคริสต์มาสโกรธแค้น’ เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากนิยาย โดย ผู้กำกับคิมซองซู ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานซีรีส์ Save Me เมื่อปี 2017 ถึงแม้ผลงานนี้บางทีอาจจะมิได้มียอดจำหน่ายตั๋วที่สูงในประเทศเกาหลีมากแค่ไหนนัก แม้กระนั้นสามารถขายลิขสิทธิ์ไปยังหลายๆประเทศแล้วก็ดูอย่างกับว่าจะได้รับการตอบกลับดียิ่งกว่าในประเทศเกาหลี

ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้บางทีอาจมองเว่อร์วังเกินจริง ก็ขอละไว้ก่อน มาดูการสะท้อนปัญหาวิตกกังวลใจของเด็ก มัธยม6 ที่จะต้องมุ่งมั่นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือที่เรียกว่าการสอบซูนึง ถึงกับขนาดเข้าค่ายเก็บเนื้อเก็บตัวเป็นเดือนๆเพื่อติวอ่านหนังสือมองไม่เห็นเดือนมองเห็นพระอาทิตย์ อดหลับอดนอน เครียดจนกระทั่งขั้นที่ว่าเวลาหลับก็หลับไม่ลง ถึงเวลาตื่นก็ไม่ยินยอมตื่น อะไรจะช่วยปล่อยความวิตกกังวลนี้ได้

จะใช่สุรา 30 ช็อตรับการเก็บเนื้อเก็บตัว 30 วันจากที่ผับเสนอขายหรือเปล่า? ดูหนังออนไลน์ หรือจะคือเรื่องของจิตใจ? พวกเราจะได้มองเห็นบรรยากาศวันสอบซูนึงที่ถูกปฏิบัติเช่นเรื่องจำเป็นระดับประเทศเลยเชียว รวมทั้งมาตามดูกันว่า ‘สวิทช์ความเกี่ยวข้อง’ ที่ผู้บริโภคคนขายต่างปิดสวิทช์ ด้วยการลบหมายเลขโทรศัพท์ของกันและกันไปข้างหลังซื้อขายแลกเปลี่ยนเสร็จ ความเชื่อมโยงจะกลับมาเปิดติดได้เช่นไร

ซึ่งมั่นใจว่าอาจจะเนื่องจากว่าพลังความนิยมชมชอบของชายหนุ่มพัคจินยอง เมื่อสัญญาว่าจ้างคุณกำลังจะจบเร็วๆนี้ คุณก็เลยเริ่มชั่งใจจะไม่ต่อสัญญาเพื่อลูกดีไหม พอดิบพอดีเป็นตอนบุตรสาวเพิ่งมีปัญหาที่สถานศึกษาค่อนข้างจะร้ายแรง บังเอิญกับงานจ๊อบที่รับมาในช่วงเวลานั้นกำเนิดไม่เป็นไปตามคาด ทำให้คุณจำต้องพบเจอกับวิกฤต ‘การฆ่า’ ที่โหดเหี้ยมสุดในชีวิตงานของคุณ

ถึงแม้ว่าแกนพล็อตจะตั้งไว้เป็นชีวิตสองขั้วที่เจอปัญหาเรื่องการปฏิบัติหน้าที่แม่ แม้กระนั้นเอาจริงเอาจัง เรื่องราวในเนื้องานของกิลบกซุนกลับมีหน้าที่ชูโรงมากยิ่งกว่า เพื่อเสริมส่งการโชว์ฉากบู๊แอ็คชั่นชั่วร้ายๆแบบประหลาดตาด้วยวิธีถ่ายทำ หากแม้บางฉากดูเหมือนจะใช้เครื่องปรับอากาศไทม์มากเกินต้องต่อเรื่องราวหลักไปหน่อย ก็มองเพลิดเพลินดีแบบไม่น่ากลัวจนกระทั่งเหลือเกิน มองดูเป็นการตั้งอกตั้งใจจัดโชว์ก็ยังได้นะ

ทางด้านส่วนประกอบงานสร้างเคล็ดวิธีพิเศษและก็ซีจีต่างๆรู้สึกว่า Transformers: Rise of the Beasts ก็ยังคงทำเป็นตามมาตรฐานที่เคยทำเอา ยังมองไม่เห็นความสะดุดตาแล้วก็แปลกใหม่ในจุดสักเท่าไหร่นัก ยังมีบางจุดบางซีนที่ไม่ค่อยเนียน แม้กระนั้นก็ไม่ใช่จุดที่สะดุดตาและก็สะดุดจนกระทั่งจำเป็นต้องเก็บเอามาพึงพอใจอะไรขนาดนั้น โดยภาพรวมแล้วจัดว่ายังคงใช้ได้ในระดับถูกใจ

ด้วยเหตุนี้โดยสรุปแล้ว นับว่า Transformers: Rise of the Beasts ออกจะเป็นการกลับมาคืนฟอร์มและก็ต่อลมหายใจให้กับหนังชุดนี้ได้ดิบได้ดีในระดับหนึ่งอยู่ บางทีก็อาจจะยังมิได้ถึงกับขนาดเพอร์เฟ็คอะไรขนาดนั้น แม้กระนั้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาปรับแนวทางให้มันเข้าที่เข้าทางได้ดีมากว่าเดิมขึ้น ผู้แสดงและก็ค้างแรกเตอร์ต่างๆมีเสน่ห์แล้วก็ความน่าดึงดูดใจเพิ่มขึ้น

ถึงมันจะยังเป็นหนังแอคชั่นที่รอเซอร์วิสแฟนคลับอยู่อย่างเคย แต่ว่าขั้นต่ำๆภาคนี้มันสามารถรับทราบได้ถึงความสนใจจิตใจบางส่วนประกอบที่ภาคก่อนหน้าที่ผ่านมาเคยไม่มีความสนใจไปดูๆไป ชื่อ Kill Boksoon นั้นเก๋ดี ด้วยการล้อชื่อกิลบกซุนกับอาชีพมือสังหาร ดูหนังออนไลน์ 4k แล้วก็ยังสื่อความหมายเป็นคำบัญชาฆ่ากิลบกซุน หรือแอบแฝงซ้อนไปอีกถึงนัยการทำลายทิ้งอาชีพมือสังหารของตัวคุณเอง