the shallows พากไทย หนังประเด็นนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชักชวนนึกถึงผลงานหนังเรื่องตามเคยออกฉายที่โรงหนังประเทศไทย โกรธเคืองทึกดวงใจกับหนังได้รับความนิยมเกินคาดที่มากับรายละเอียดที่จะต้องทำให้หัวใจเร็วรัว กับหนังเอาชีวิตรอด “The Shallows” (เมืองนรกน้ำตื้น) ปลาฉลามหิวโหดเหี้ยมที่ต้อนหญิงสาวเป็นเหยื่อกึ่งกลางสมุทร ที่แปลงเป็นหนังได้รับความนิยมแบบเหนือความมุ่งหวังเมื่อปี 2016
The Shallows เกิดเรื่องราวของ แนนซี่ นักเล่นกระดานที่มีไว้เล่นโต้คลื่น ที่ได้เลือกดำรงชีวิตตอนวันหยุดบนเกาะที่เป็นราวกับสรวงสวรรค์ของนักโต้คลื่น แม้กระนั้นอยู่มาวันหนึ่งเกาะที่เป็นเหมือนดั่งสรวงสวรรค์ที่นี้ กลับมีสัตว์ร้ายใต้สมุทรอย่าง ปลาฉลาม บุกรุกรานใส่คุณอย่างคุ้มดีคุ้มร้าย งานนี้คุณจะเอาชีวิตรอดจากหายนะคราวนี้ได้ไหม
หนังขึ้นแท่นสำเร็จงานระดับมาสเตอร์พีชของ “เบลค ไลฟ์ลี่” ไปอีกประเด็น หนังสำเร็จหน้าที่การงานดูแลของ “โจเม่ วัวลเล็ต-เซอร์ร่า” ที่ได้ดีเพราะว่าหนังหัวข้อนี้แท้ๆปัจจุบันนี้เขาได้รับจังหวะใหญ่ๆควบคุมหนังฟอร์มยักษ์แถวหน้าของฮอลลิวูดล้วนๆแต่ว่าสำหรับใน The Shallows เป็นหนังเล็กๆที่มอบอารมณ์ที่น้อยแต่ว่ามากมาย เต็มไปด้วยความเขย่าขวัญแล้วก็กระตุกความเสียวของผู้ชมได้อย่างถูกจังหวะ
Chupa” เด็กผู้ชายกับสัตว์ลึกลับเรื่องที่ร้อยกว่าของฮอลลีวูด
ซึ่งทางผู้ผลิตก็คงจะรู้สึกตัวดีละว่าฮอลลีวูดมีหนังแนวนี้ออกมามากมาย ก็เลยพากเพียรเปลี่ยนแปลงบรรยากาศหนังให้เรื่องราวของ Chupa ไปกำเนิดในประเทศเม็กซิโก ประเทศถิ่นกำเนิดของผู้กำกับเอง โดยเล่าราวของ chupacabra สัตว์ในเทพนิยายของชาวชาวเม็กซิโก ที่เกิดมีตัวตนขึ้นมาจริงๆผ่านผู้แสดง ริชาร์ด ควินน์ นักค้นคว้าค้นคว้าที่สวมบทโดย คริสเตียน สเลเตอร์ (Christian Slator) ดาราหนังมีชื่อเสียงที่แปลงเป็นเครื่องหมายของหนังเกรด B ไปแล้วในทุกวันนี้ ควินน์ดำเนินงานให้บริษัทขายยายักษ์ใหญ่ ที่อยากได้ตัว chupacabra ไปทำยามหัศจรรย์ แล้วควินน์ศึกษาและทำการค้นพบ chupacabra แม่ลูกตั้งแต่ 5 นาทีแรกของหนังเลย ก็ถือว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่ฉีกจากขนบหนังแนวนี้ ให้มองเห็นตัวกันชัดๆตั้งแต่ต้นไม่ต้องซ่อนกันนานๆ
chupacabra แม่ลูกหนีการตามล่าของควินน์แล้วก็พวกพ้อง ตัวแม่โดนรถชนเจ็บ ไม่สามารถที่จะบินหนีได้ เลยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ล่อให้กรุ๊ปมนุษย์ไล่หลังตนเอง เนื่องจากว่าหวังว่าลูกน้อยจะไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากการตาล่าของเหล่ามนุษย์ ทำให้ chupacabra ตัวลูก ไปแอบอยู่ในโรงนาของครอบครัวของ ชาวา ปู่อดีตกาลนักมวยปลุกปล้ำในตำนานที่อยู่กับ ลูทุ่งนา รวมทั้ง เมโม หลานสาวแล้วก็หลานชาย ผู้แสดงหลักของเรื่องเป็น อเล็กซ์ หลานชายของชาวาที่บินมายอดเยี่ยมปู่ในตอนนั้นพอดิบพอดี เรื่องราวหลังจากนั้นก็ดำเนินไปตามสูตรที่ทายใจกันได้แล้ว อเล็กซ์ได้เจอกับ chupacabra ตัวน้อยแล้วตั้งชื่อมันว่า Chupa ควินน์และก็พวกสะกดรอยมาพบ ครอบครัวชาวาจำเป็นต้องช่วยเหลือกันคุ้มครองปกป้องยกปาน้อย กำเนิดฉากแอ็กชันเล็กๆก่อให้เกิดข้อสรุปของเรื่องราว ที่จบในเวลา 95 นาทีพอดีเป๊ะ
หนังถูกทำออกมาอย่างขาวสะอาดมากมาย ไม่มีภาพร้ายแรง ภาษาไม่สุภาพ จนได้เรต PG มีความหมายว่าไม่จำกัดวัยผู้ชมเลย มองเจตนาแล้ว ผู้ผลิตก็คงจะหมายมั่นไปที่กรุ๊ปผู้ชมรุ่นเล็กนั่นแหละ ที่คงจะพอเพียงอกพึงพอใจกับภาพลักษณ์ของเจ้ายกปาน้อย ที่ถูกวางแบบมาได้น่ารัก ที่ดึงเอาความน่ารักน่าเอ็นดูของลูกสุนัขลูกแมวมาผสมรวมกัน แล้วใส่ปีกเข้าไปหน่อย ใส่เสียงร้องให้ฟังมองเป็นลูกสัตว์มีความน่าเห็นใจ อย่าว่าแต่ว่าเด็กๆเลย คนแก่เองก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้ายกปาน้อย ในเรื่องภาพลักษ์ของเจ้ายกปานี้ ก็จำต้องสรรเสริญคณะทำงานครับผม ที่มองมีความตั้งอกตั้งใจให้รายละเอียดให้ชนมองมีความหยาบหยาบให้สมกับเป็นสัตว์ป่า มีฟันคมไว้ป้องกันภัย เนื่องจากหนังก็ปูความมาแล้วว่า Chupa ออกจะเป็นสัตว์ที่มีความป่าเถื่อน ฆ่ารวมทั้งดื่มเลือดแพะเป็นของกิน งบประมาณสร้าง 27 ล้าน ก็คงจะลงไปกับงาน CGI เสียมาก เพราะว่าหนังอีกทั้งเรื่องใช้ผู้แสดงหลักเพียง 5 คนแค่นั้น แล้ว 4 คนก็โนเนมล้วนๆแล้วตัวยกปาน้อยก็ออกมาออกจะเนียนตา เคลื่อนนุ่มนวล กลมกลืนไปกับดาราหนังและก็บรรยากาศรอบตัว ไม่มองเป็นตัวการ์ตูนกระทั่งเหลือเกินนัก
ด้านผู้แสดงเด็กทั้งยัง 3 ที่รับหน้าที่เป็นตัวละครหลักก็ล้วนปฏิบัติหน้าที่ได้ดิบได้ดี อีวาน วิธเท็น (Evan Whitten) คนรับบท อเล็กซ์ นักแสดงหลักของเรื่อง หากแม้พวกเราจะไม่คุ้นหน้าชินตา แต่ว่าน้องก็ผ่านงานแสดงมาโชกโชน สิบกว่าเรื่องแล้ว นิโคลาส เวอร์มองโก (Nickolas Verdugo) หนูน้อยร่างตุ้ยนุ้ยที่ลักขโมยซีนไปได้พอสมควรเมื่อใดก็ตามออกมา ก็ผ่านงานแสดงมา 3 เรื่อง ละเว้นเพียงแค่ตัว แอชลีย์ เซียร์รา (Ashley Ciarra) สาวน้อยคนรับบท ลูท้องนา ที่แสดงหัวข้อนี้เกิดเรื่องแรกก็ให้การแสดงที่ดูกรบสดชื่นดี เดภรรยาน บิชีร์ (Demián Bichir) ดาราหนังรุ่นใหญ่ที่พวกเราคุ้นตาชินตากันพอเหมาะ มารับบทเป็นคุณปู่ชาวา ที่แสดงประเด็นนี้เสมือนงานพัก เล่นเบาๆบันเทิงใจกับเด็กๆไป ส่วน คริสเตียน สเลเตอร์ นั้น แม้ว่าจะกลับหน้าที่มาเล่นเป็นตัวร้าย แม้กระนั้นก็เป็นตัวร้ายในหนังเด็กเรต PG บทก็เลยถูกตีกรอบบังคับไว้ ก็เลยมิได้ลงไม้ลงมือกับเด็กหรือตัวยกปาน้อย ให้ผู้ชมจำเป็นต้องสาปแช่ง
Emily the Criminal” เพราะเหตุว่าช่องทางให้แก้ตัวของคุณ..เป็นสีเทาหม่นหมอง
และก็นี่เป็นหนังอาชญากรรมที่ค่อนข้างจะเป็นหนังนอกกระแสสักนิด แต่ว่าจัดได้ว่ามีความจัดจ้าในลีลาท่าทางและก็อาการสำหรับการพรีเซนเทชั่นจากที่ได้ยินเสียงยกย่องมาจากนักวิพากษ์วิจารณ์หลายสถาบัน นับจากหนังเปิดตัวทีแรกที่เทศกาลหนังซันแดนซ์ ปี 2022 นี่เป็น “Emily the Criminal” มากับข้อความสำคัญดราม่ากับหัวข้อทางด้านสังคมที่ราวกับจะเอาจริงเอาจัง แต่กระทบกระแทกได้แยบคายประทับใจตลอดชั๋วนาฬิกาเศษๆ
Emily the Criminal เล่าราวของ เอมิลี่ ที่ยังจะต้องแบกรับหนี้สิน กตำแหน่ง. ที่ไม่จบไม่สิ้น ทั้งกำลังเบื่อกับการออกสัมภาษณ์งานใหม่แม้กระนั้นมิได้ เนื่องจากมีคดีอาชญากรรมนิดๆหน่อยๆประจำตัวคุณมาจากในอดีตกาล จนกระทั่งคุณถูกนำพาไปสู่วังวนของโลกนักช้อปกำมะลอ ที่ใช้บัตรเครดิตเลียนแบบสำหรับเพื่อการปิดบังจ่ายตลาดสร้างรายได้ โดยที่มี ยูเซฟ เป็นคนที่ฝึกการสอนและก็สนับสนุนสร้างงานนี้ให้กับคุณ
แม้กระนั้นไม่นานนัก คุณกลับต้องมาพบว่าตนเองยิ่งถลำไปสู่วงจรอาชญากรรมที่นี้ลึกขึ้นเรื่อยกระทั่งคิดที่จะแยกตัวออกมาดำเนินการรูปแบบนี้ด้วยตัวเอง เพื่อรับสินทรัพย์แล้วก็ผลกำไรแบบเต็มๆโดยที่ความเกี่ยวข้องกับยูเซฟยิ่งสนิทแน่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆวันแล้ววันเล่า ทำให้คิดคิดแผนที่จะร่วมมือกันสร้างธุรกิจนี้ร่วมกัน เพื่อก้าวขึ้นไปอีกระดับขั้นในโลกของธุรกิจเทาหมองศูนย์กลางนครลอสแองเจลิสที่นี้ ที่มันกำลังนำทางคุณไปสู่ทางอันตรายเกินจะควบคุม
นี่เป็นผลงานที่น่าจะเป็นงานแจ้งกำเนิดให้กับผู้กำกับชายหนุ่ม “จอห์น แพตตัน ฟอร์ด” ที่หัวข้อนี้เขารับหน้าที่อีกทั้งควบคุมและก็เขียนบทหนังเอง จะต้องถือเป็นการออกตัวที่น่าพึงพอใจดี เขาที่เคยสั่งสมประสบการณ์มาจากวิธีการทำหนังสั้น แม้กระนั้นหนังประเด็นนี้จัดว่าทำให้เขาโดนจับตามองเป็นนักสร้างภาพยนตร์แบบใหม่ที่ดูถูกมิได้ในรอบปีอีกคน แล้วก็คงจะทำให้เขาได้โอกาสใหม่ๆวิ่งเขาหาตัวได้มากขึ้นในอนาคต เนื่องจากว่างานนี้นับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างจะดี
Emily the Criminal ที่บางครั้งอาจจะเป็นหนังอินดี้ไปหน่อย แต่ว่าก็ไม่ใช่อินดี้ที่เข้าใจยากอะไรเลย นี่เป็นหนังอาชญากรรมที่พรีเซนเทชั่นได้อย่างไม่อ้อมค้อมมากมายๆแทบจะไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เดินทางเส้นเรื่องที่ใช้ผู้แสดงหลักนำทางไปเรื่อยผ่านแนวความคิดรวมทั้งมุมมองการใช้ชีวิตของนักแสดงนั้นๆถึงองค์ประกอบของบทหนังจะยังมิได้มีมิติให้รายละเอียดลึกขนาดนั้น แต่ว่าบทหนังก็ยังเต็มไปด้วยความแหลมคมคายไม่น้อย กับการจับเอาไว้กระบวนการเป็นผู้ร้ายมานำเสนอได้อย่างมีกึ๋น
แล้วดาราหนังสาว “ออเบรย์ พลาซา” ก็คือเฉิดฉันในหนังหัวข้อนี้มากมายก่ายกอง อีกทั้งการแสดงของคุณที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ กับหน้าที่ที่ส่งคุณอย่างดีเยี่ยม ทำให้คุณรับหน้าที่เป็นนางหามสำคัญๆของเรื่องที่คุณสามารถต่อกรได้อยู่มือ รวมทั้งจุนเจือหนังอีกทั้งหัวข้อนี้เอาไว้ได้สบายๆกับการแสดงที่ใช้อินเนอร์นิดๆอารมณ์หน่อยๆด้วยการออกแบบของคุณนั้นจัดว่าทำออกมาได้แจ้งชัดแล้วก็ติดต่อสื่อสารก้าวหน้า
ในด้านงานโปรดักชั่นและก็งานสร้างต่างๆEmily the Criminal บางครั้งอาจจะมิได้มีอะไรที่สะดุดตาสะดุดอะไรขนาดนั้น แต่ว่าเนื่องจากว่าเป็นหนังอินดี้ทุนสร้างไม่เยอะแยะอะไร ก็จัดว่าหนังตอบปัญหาออกมาได้คุ้ม มุมกล้องถ่ายรูปรวมทั้งการออกแบบมุมภาพกับแสงสีในหัวข้อนี้จัดว่าทำออกมาใช้ได้ มีความชอบธรรมชาติ และไม่ได้กัดเซาะตัวหนัง แม้ว่าจะเป็นหนังทุนสร้างน้อยก็ตาม ถือได้ว่าเป็นหนังที่มีจังหวะการนำเสนอที่เข้มข้นตื่นเต้นสำหรับเพื่อการเดินหมากต่างๆของเรื่อง
Living
แล้วก็นี่เป็นหนังที่สะดุดตาสะดุดใจพวกเราไม่น้อย เนื่องจากเป็นหนังม้ามืดที่แทรกเข้ามาติดโผเข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ปีปัจจุบัน นี่ก็คือ “Living” หนังเชื้อชาติอังกฤษที่เป็นการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงผลิตจากต้นฉบับหนังประเทศญี่ปุ่นสุดอมตะ ที่อาจะไม่ใช่หนังเชิงการค้ายอดนิยมเป็นวงกว้าง แม้กระนั้นเมื่อจับเอากรรมวิธีการเล่าแบบดราม่าใส่ฟีลแบบจริตประเทศญี่ปุ่นมาอยู่ในหนังประเทศตะวันตกแล้ว กลิ่นมันก็ละมุนไปได้อีกแบบ
Living เกิดเรื่องราวของ รอดนีย์ วิลเลียมส์ เจ้าหน้าที่รัฐระดับที่ถือว่าสูงประจำศาลากลางกรุงลอนดอนในตอนสมัยปี 1950s ที่กำลังประจันหน้ากับความอ้างว้างในชีวิต ถึงแม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่กับลูกๆอยู่ก็ตาม แต่ว่าเขากลับจะต้องประจันหน้ากับจุดเปลี่ยนที่โศกอีกครั้ง เมื่อผลวิเคราะห์จากหมอกล่าวว่าเขาเป็นโรคร้ายรวมทั้งยังเหลือเวลาอยู่เพียงแค่ไม่นาน ทำให้เขาเริ่มฉุกคิดอะไรบางอย่างที่จะทำเพื่อเป็นการบอกคนที่อยู่รอบข้างให้เพอร์เฟ็คที่สุด โดยยิ่งไปกว่านั้นการแสวงหาและก็สนองตอบหาผู้สืบทอดสิ่งที่เขาทำทิ้งไว้ให้กับคนรุ่นต่อไป
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับคนแอฟริกาใต้ “โอลิเวอร์ เฮอร์มานัส” ที่เคยแจ้งกำเนิดแล้วก็ได้รับเสียงยกย่องอย่างล้มหลามจากงานชิ้นก่อนในหนังสงครามโรแมนซ์รายละเอียด LGBTQ+ อย่าง Moffie แล้วก็เขาก็ถือเอาประสบการณ์ในด้านการทำงานมาใส่เป็นลูกเล่นในหนังประเด็นนี้ได้อย่างลงล็อกลงจังหวะ ถึงแม้ว่าในด้านงานสร้างของหนังประเด็นนี้จะยังมิได้เด่นเป็นที่สุด แม้กระนั้นจะต้องเห็นด้วยว่าโปรดักชั่นวางแบบรวมทั้งการออกแบบมุมภาพ และแสงสีต่างๆทำออกมาได้อ่อนโยนตามแบบฉบับของโอลิเวอร์หนังหัวข้อนี้ได้นักประพันธ์นวนิยายโด่งดัง อย่าง “ติดอยู่ซูโอะ อิชิฉันโระ” (จากนิยาย Never Let Me Go) มาช่วยดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขบทหนังให้ โดยคัดสำเนามาจากต้นฉบับที่เป็นหนังประเทศญี่ปุ่นคลาสสิก Ikiru เวอร์ชั่นปี 1952 ของผู้กำกับ อากิระ คูโรซาวะ ที่นับได้ว่าเป็นหนังประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการชื่นชมให้สำเร็จงานทางด้านวัฒนธรรมอันเป็นมรดกแห่งชาติเรื่องหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ เมื่องานฟีลประเทศญี่ปุ่นโดนจับมาใส่เอาไว้ภายในบรรยากาศของเมืองผู้ดี มันก็มีทั้งยังมุมที่ใช้ได้และก็มุมที่ยังอีหลักอีเหลื่อปะปนไป
จำเป็นต้องเห็นด้วยว่ารายละเอียดของหนังไม่สามารถที่จะพึ่งใส่ความสดใหม่ในตัวมันเองได้แล้ว เนื่องจากว่านี่เป็นงานรีเมคจากอันเก่าที่ขึ้นหิ้งเอาไว้มากมายๆเมื่อชงในแก้วใบใหม่ออกมาก็ยังสัมผัสได้ถึงความกลมกล่อม แต่ว่ารสบางครั้งอาจจะยังไม่ถึงกับอร่อยที่สุด บางทีอาจเนื่องจากว่าจะมีเรื่องมีราวความแตกต่างของวัฒนธรรมและก็สังคมอยู่บ้าง ที่ทำให้พล็อตอะไรแบบงี้มองค่อนข้างจะปกติไม่สักนิดสักหน่อยในประเทศตะวันตก แล้วก็การผลิตความความสัมพันธ์ของผู้แสดงก็ยังไม่ค่อยสนิทแน่นพอเพียง
แม้กระนั้นความดีทั้งสิ้นทั้งหลายทั้งมวลของ Living หัวข้อนี้นั้น ตกมาใส่อยู่บนบ่าทั้งสองข้างของผู้แสดงนำฝ่าย อย่าง “ใบเสร็จรับเงิน ไนต์” นี่แหละ..ดาราหนังมือโปรโดยแท้จริง และไม่งงงวยเลยสักหน่อย ที่เขาสามารถฝ่าด่านมีชื่อติดโผเข้าชิงรางวัลต่างๆในด้านการแสดงแทบทุกเวทีรางวัลเมื่อตอนต้นปีให้หลัง เนื่องจากว่านี่เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เขาได้ปล่อยของแล้วก็ปลดปล่อยพลังการแสดงออกมาได้อย่างแยบยล
ส่วนหนึ่งส่วนใดบางครั้งก็อาจจะเป็นเนื่องจากบทที่เขาได้รับค่อนข้างจะเกื้อหนุนดีด้วย เมื่อได้ดาราที่มีกึ๋นแล้วก็ประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยม ก็เลยสามารถประดิษฐ์ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเขานุ่มนวลรวมทั้งบาดลึกไปในครั้งเดียวกัน ราวกับเป็นการออกสตาร์ทกระทำการแสดงเพียงนิดหน่อย แม้กระนั้นมอบคำตอบออกมาได้ค่อนข้างจะจัดจ้าดี ถึงแม้ว่าโอบล้อมต่างๆกับวิธีของหนังจะค่อยผลักรั้งความดีเลิศลงอยู่หลายครั้งก็ตาม
